ประยุทธ์ ห่วง ตะวัน-แบม อวยพรขอให้ปลอดภัย กำชับแพทย์ดูแลเต็มที่ ลั่นอย่าไปเชื่อกลุ่มบิดเบือน เน้นสร้างความเกลียดชังจนเกิดความขัดแย้ง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความห่วงใยต่อ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม สองผู้ต้องหา ม.112 ที่อาการทรุดหนักจากการอดอาหาร
นายอนุชา ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ทั้ง 2 คนปลอดภัยในฐานะคนไทยด้วยกัน
กำชับให้คณะแพทย์ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดให้ปลอดภัย พร้อมแสดงความเป็นกังวลต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ฝากให้ผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมลูกหลาน และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่าหลงเชื่อและตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง นายกฯ ย้ำทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน จะเคลื่อนไหวอะไรขอให้คำนึงถึงกฎหมาย เคารพกฎหมายด้วย
“นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือประชาชนในฐานะที่เป็นคนไทย ให้ช่วยกันรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่าไปเชื่อกลุ่มที่บิดเบือน สร้างความเกลียดชังจนเกิดความขัดแย้ง ความไม่สงบขึ้นในสังคม ขอให้ทุกคนรักและสามัคคี ร่วมมือกันพัฒนาประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้า” นายอนุชากล่าว
ตะวัน-แบม ยอมรับน้ำเกลือ หลังครอบครัวและแพทย์ขอร้องให้ไว้ชีวิตชั่วคราว เพื่อรอฟังคำตัดสินศาลประกันนักโทษการเมือง นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของ ว่าน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม ผู้ต้องหา ม.112 เปิดเผยว่าล่าสุดทั้งสองยอมรับน้ำเกลือ ทางทีมแพทย์และครอบครัวได้ขอร้องเพื่อรักษาชีวิตไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลมีคำสั่งประกันนักโทษการเมือง
ทนายด่างยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า ศาลยังไม่มีคำสั่งกรณีการประกันนักโทษทางการเมืองในวันนี้ โดยศาลให้รอฟังคำสั่ง ซึ่งตามกฎหมายให้สั่งโดยเร็วในการขอประกันตัว ซึ่งศาลแจ้งว่าให้รอคำสั่งจากอธิบดีศาลอาญา ซึ่งหลังจากตะวัน กับแบมได้ยิน พร้อมกับคำร้องขอจากแพทย์ ครอบครัว ญาติมิตรและทนายความ เพราะกลัวน้องจะไม่ไหว ไม่พ้นคืนนี้ ก็จะยอมรับน้ำเกลือแล้ว
ทั้งนี้นาย กฤษฎางค์ กล่าวว่า ตะวันกับแบมยืนยันว่าไม่ได้กดดันศาล และทุกฝ่ายต้องการให้น้ำเกลือเพื่อพอไปได้ ซึ่งการให้สารอะไรไป ก็อาจจะช็อกได้ การให้น้ำเกลือทำให้ร่างกายปรับ และให้ไปต่อได้ อย่างน้อยก็ยังดีใจว่ายังไม่เสียน้องไป จนกว่าจะยอมฟังคำสั่งศาล
‘ประยุทธ์’ ปลื้ม จีนเที่ยวไทยมากสุด คาดเงินสะพัดพ้นล้าน
โฆษกสำนักนายกเผย ประยุทธ์ เป็นปลื้มหลัง จีนเที่ยวไทย มากสุด ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 คน เงินสะพัดพันล้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝัน ของนักท่องเที่ยวจีน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งยกให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝัน (Dream Destination) ที่ต้องการมาเยือนหลังมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ซึ่งล่าสุด ทางการจีนได้ประกาศเปิดประเทศ และอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ทั่วประเทศจีน รวมถึงธุรกิจตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม ดำเนินกิจการจัดการท่องเที่ยวสำหรับชาวจีนแบบหมู่คณะ ไปยัง 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มีการจัดแคมเปญเพื่อดึงดูด และมีมาตรการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ากลยุทธ์ “China is Back” ดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยร่วมกับภาคเอกชนจัดแคมเปญใหญ่ Two Lands, One Heart (ไทย-จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน) ส่งเสริมการตลาดดึงนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวไทย พร้อมทั้งใช้เครื่องมือทางดิจิทัลในลักษณะ Worldwide Platform และสานต่อกลยุทธ์ Celebrity Marketing ตลอดจนเร่งฟื้นเที่ยวบินรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจีน และร่วมกับพันธมิตรขายแพ็กเกจท่องเที่ยว ทั้งเดินทางข้ามชายแดนทางบก (R3A) รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว และเรือครุยส์แม่น้ำโขง ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยได้ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคนในปีนี้
นอกจากนี้ ภาคเอกชนของไทยและจีนได้ร่วมมือกันผลักดันการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไทยจะมีการจัดมหกรรมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเพื่อจัดทำแผนและแคมเปญการท่องเที่ยวระหว่างกัน และในเดือนมิถุนายน 2566 ไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 ซึ่งคาดว่าจะมีนักธุรกิจจีนจากทั่วโลกเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 3,000 คน มูลค่าเงินสะพัดกว่าพันล้านบาท และดึงดูดการค้าการลงทุนอีกมหาศาล
“นายกรัฐมนตรียินดีที่ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว และมีสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากถึง 11 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 5.31 แสนล้านบาท ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป โดยขอให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ คำนึงถึงมาตรการทางสาธารณสุข และเป็นเจ้าบ้านที่ดี” นายอนุชาฯ กล่าว
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ufabet เว็บตรง